• 地點:臺灣
• 發布日期: 2023/12/28
• 單位:內政部移民署
• 更新日期:2023/12/28
• 點閱次數:31

ด้วยสภาพอากาศหนาวจัด กรมอนามัยแห่งชาติจึงแนะนำว่า นอกเหนือจากผู้สูงอายุ ผู้ป่วยความดัน ไขมันและน้ำตาลสูงและเด็กเล็กแล้ว ประชาชนที่ทำงานออกเช้ากลับดึกหรือเข้ากะ จะต้องระมัดระวังความแตกต่างของอุณหภูมิ "นอกบ้าน" ที่เป็นเหตุก่อให้เกิดความดันโลหิตสูงและเส้นเลือดสมองแตกกะทันหัน สำหรับความแตกต่างของอุณหภูมิ "ในบ้าน" ควรระวังห้ามปิดหน้าต่างมิดชิด จะต้องรักษาการถ่ายเทของอากาศที่เหมาะสม ช่วงเวลาลุกจากที่นอนควรปฏิบัติตามหลักการ "ช้า อุ่น ลุก สวม เดิน" และสำหรับในส่วนของอุปกรณ์รักษาความอบอุ่นที่มีหลากหลายชนิด จะมี 2 ประเด็นสำคัญในการใช้งาน หนึ่งคือไม่ควรใช้เป็นเวลานาน สองคือไม่แนะนำให้สัมผัสกับผิวหนังโดยตรง ปฏิบัติตามคำเตือนข้างต้น เพื่อผ่านพ้นสภาพอากาศที่หนาวเย็นอย่างปลอดภัย หากมีอาการผิดปกติควรเข้าพบแพทย์โดยเร็ว!

8 ประเด็นสำคัญในการรักษาสุขภาพเมื่ออุณหภูมิต่ำ เพื่อมีสุขภาพที่ดีและปลอดภัย

1.สภาพแวดล้อม : สภาพแวดล้อม เช่น ห้องนอนในบ้าน ห้องน้ำและห้องรับแขก ที่ผู้สูงอายุหกล้มได้ง่าย จะต้องมีแสงไฟที่สว่าง ห้ามวางสิ่งของเกะกะบนพื้น หลีกเลี่ยงอุปสรรคในการเดิน ถ้าหากเลือดหมุนเวียนช้า ยิ่งต้องระวังอาหารเวียนหัวและอาการทางหัวใจ นอกเหนือจากการรักษาความอบอุ่นแล้ว การถ่ายเทอากาศที่เหมาะสมก็เป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

2.รักษาความอบอุ่น : ไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม ขอให้ลุกจากที่นอน โดยห้ามลืม 5 เคล็ดลับ "ช้า อุ่น ลุก สวม เดิน" อย่างเด็ดขาด เวลาเข้านอนตอนกลางคืน จะต้องเตรียมเสื้อผ้าที่รักษาความอบอุ่นข้างที่นอนที่สามารถเอื้อมหยิบได้ทันที ไม่ว่าจะลุกจากที่นอนเมื่อไหร่ อย่าลืมที่จะยืดแขนยืดขาบนที่นอนหรือยืดเส้นยืดสายให้วอร์มร่างกายก่อน เพื่อกระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต หลังจากลุกขึ้นแล้วควรนั่งที่ขอบเตียงก่อน เติมเสื้อผ้าเพื่อรักษาความอบอุ่น จึงค่อย ๆ ลงจากที่นอน กิจกรรมหลังจากตื่นนอนไม่ควรใช้แรงมากเกินไป และดื่มน้ำอุ่นเพื่อทำให้ร่างกายอบอุ่น

3.การรับประทานอาหาร : เมื่ออากาศหนาวการเลือกรับประทานอาหารเสริมหรือยาเสริมที่เป็นน้ำซุปหรือประเภทหม้อดิน หากมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ยิ่งต้องระวังความแตกต่างของร่างกายกับอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ เมื่อดื่มน้ำซุป ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้อุณหภูมิของน้ำซุปเกิน 65 องศา ซึ่งอาจทำให้หลอดอาหารบาดเจ็บได้

4.การแช่น้ำ : หลีกเลี่ยงการแช่น้ำทันทีหลังรับประทานอาหารหรือหลังดื่มสุรา แนะนำให้เว้นระยะอย่างน้อย 2 ชั่วโมง และอุณหภูมิน้ำห้ามเกิน 40 องศา ห้ามแช่น้ำคนเดียวอย่างเด็ดขาด

5.ออกกำลังกาย : เมื่อออกกำลังกายจะต้องวอร์มอัพให้เต็มที่ก่อน สำหรับกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น สูบบุหรี่ โรคพิษสุรา โรคอ้วนหรือโรคเรื้อรังและโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรออกกำลังกายทีหลัง หรือเลือกออกกำลังแบบง่าย ๆ ในร่ม หากต้องออกจากบ้าน แนะนำให้ออกกำลังกายเป็นกลุ่ม เพื่อดูแลกันและกัน

6.รับประทานยาตามเวลาและทำจิตใจให้ผ่อนคลายเพื่อควบคุมภาวะของโรค : ตรวจวัดและบันทึกน้ำตาลในเลือด ความดันโลหิตของตนเองเป็นประจำ และรับประทานยาตามคำสั่งของแพทย์พร้อมทำจิตใจให้ผ่อนคลาย

7.พกบัตรประกันสุขภาพและยาใช้ฉุกเฉิน : เวลาออกไปข้างนอกจะต้องพกบัตรประกันสุขภาพติดตัว พร้อมจดจำข้อมูลโรงพยาบาลที่รักษาตัวประจำ ข้อมูลการวินิจฉัย ประวัติการแพ้ยา เป็นต้น หากแพทย์มีสั่งยาฉุกเฉิน ควรพกติดตัวไว้

8.พบแพทย์ทันทีเมื่อมีอาการผิดปกติ : หากร่างกายมีอาการ เช่น แน่นหน้าอก เจ็บหน้าอก ใจสั่น หายใจลำบาก คลื่นไส้ เหงื่อออก เวียนศีรษะหรือหมดสติ หรือมีหนึ่งในอาการเส้นเลือดสมองแตก ซึ่งไม่สามารถ "ยิ้ม ยกมือ ทักทาย" อย่างถูกต้อง จะต้องไม่ขับรถเองอย่างเด็ดขาด ควรติดต่อ 119 ทันที พร้อมบันทึกเวลาที่ออกอาการ เข้าพบแพทย์โดยเร็วภายใน 3 ชั่วโมง เพื่อให้รักษาได้ทันการ