按 Enter 到主內容區
:::

回培力新住民資訊網首頁

นโยบาย
:::

ประชาชนที่เกิดในประเทศระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 31 ธันวาคมของปีนี้

  • 回上一頁
  • 友善列印
字型大小:
  • 地點:臺灣
  • 發布日期:
  • 單位:財政部
  • 更新日期:2023/09/27
  • 點閱次數:22

ะได้รับเงินแห่งชาติจนถึงสิ้นเดือนมกราคม 2567

กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ภายใต้ความร่วมมือของฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่การเปิด "ลงทะเบียนเพื่อเข้าบัญชี" ในวันที่ 22 มีนาคม 2566 เป็นต้นมา การดำเนินการจ่ายเงินแห่งชาติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย  สายด่วนบริการลูกค้า 1988 มีประชาชนติดต่อสอบถามกว่า 280,000 ราย ผ่านระบบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 20 มีนาคมจนถึงสิ้นเดือนสิงหาคม ซึ่งส่วนใหญ่จะสอบถามเกี่ยวกับการลงทะเบียนเพื่อเข้าบัญชี เงื่อนไขและคุณสมบัติ การติดต่อขอรับเงินที่ไปรษณีย์ และการโอนเข้าบัญชีโดยตรง เป็นต้น ทั้งนี้ การดำเนินการอย่างมีความรับผิดชอบของสายด่วนบริการลูกค้า 1988 และฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง สามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนและประสานดำเนินการจ่ายเงินให้เป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยวันที่ 20 กันยายน มีผู้ติดต่อขอรับเงินทั้งสิ้น 23.26 ล้านคน และประชาชนกว่า 98% ดำเนินขั้นตอนการขอรับเงินแห่งชาติผ่านช่องทางที่หลากหลาย

กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กล่าวเพิ่มเติมว่า การจ่ายเงินแห่งชาติจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคมของปีนี้ ทารกที่เกิดในประเทศและมีใบสูติบัตรระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - วันที่ 31 ธันวาคมของปีนี้ และบิดาหรือมารดาเป็นผู้มีคุณสมบัติสอดคล้องตามเงื่อนไขการขอเบิกเงิน จะถือรวมอยู่ในเป้าหมาย และสามารถขอรับเงินแห่งชาติ ได้ที่เคาน์เตอร์ชั่วคราวของไปรษณีย์ ก่อนวันที่ 31 มกราคม 2567 

กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เตือนว่า ก่อนรับเงินที่เคาน์เตอร์ชั่วคราวของไปรษณีย์ กรุณานำหลักฐานสูติบัตรของทารกและเอกสารยืนยันตัวตนของบิดาหรือมารดาผู้ให้กำเนิดมาแสดง หากบิดาหรือมารดาผู้ให้กำเนิดมอบหมายให้ผู้อื่นมาดำเนินการรับแทน นอกจากเอกสารที่กล่าวข้างต้นแล้ว จะต้องนำเอกสารยืนยันตัวตนที่มีรูปถ่ายของผู้รับแทน และเพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการรายงานทารกแรกเกิดของสถาบันทางการแพทย์ จึงแนะนำให้ขอรับเงินที่เคาน์เตอร์ชั่วคราวของไปรษณีย์ หลังทารกเกิด 10 วัน หากมีคำถามใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง โปรดติดต่อสายด่วนบริการลูกค้า 1988

กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง กล่าวย้ำว่า รัฐบาลจะไม่ส่ง SMS หรืออีเมล์แจ้งเตือนรับเงินหรือลงทะเบียน และไม่มีการโทรศัพท์แจ้งการโอนเงินที่ ATM หรือธนาคารออนไลน์ จึงขอเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังไม่ให้ถูกหลอก และเพื่อหลีกเลี่ยงข้อมูลส่วนบุคคลถูกขโมยหรือถูกหลอกลวง หากพบเว็บไซต์หรือข้อมูลที่น่าสงสัย  โปรดแจ้งสายด่วนป้องกันการหลอกลวง 165 พร้อมขอความร่วมมือจากประชาชนทุกคนร่วมกันป้องกันเหตุการณ์หลอกลวง

top