按 Enter 到主內容區
:::

回培力新住民資訊網首頁

นโยบาย
:::

เสริมสร้างความเป็นอยู่แก่ประชาชนหลังเกิดโรคระบาด :ลดภาระความเป็นอยู่ให้ป

  • 回上一頁
  • 友善列印
字型大小:
  • 地點:臺灣
  • 發布日期:
  • 單位:內政部移民署
  • 更新日期:2023/02/23
  • 點閱次數:52

กระทรวงมหาดไทยประกาศวันนี้(16)รายงานของสภาบริหาร“ลดภาระแก่ประชาชนด้วยมาตรการสนับสนุนหลากหลาย”ช่วง 3 ปีที่เกิดโรคระบาดส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของผู้คนมากมาย เพื่อลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน มาตรการสำคัญครั้งนี้จะพิจารณาดูแล“กลุ่มผู้เช่าบ้าน”ก่อน และสนับสนุนดูแลผู้มีรายได้กลางต่ำ“กลุ่มกู้เงินซื้อบ้าน”ผ่านการผลักดันเงินอุดหนุนค่าเช่าบ้านอย่างเป็นวงกว้าง เชื่อมตรงต่อเนื่องเพิ่มกับการก่อสร้างและการเช่าซึ่งตัวแทนจัดการด้านที่อยู่อาศัยให้บริการ การกำหนดนโยบายต่างๆ เช่นนโยบายสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัย เป็นต้น เพื่อลดภาระให้แก่ผู้อยู่อาศัย

ดูแลกลุ่มผู้เช่าบ้านก่อน ดำเนินการขยายวงกว้างเงินอุดหนุนค่าเช่าบ้าน

กระทรวงมหาดไทยแถลงว่า ได้จัดมาตรการเงินอุดหนุนค่าเช่าบ้าน 30 พันล้านเหรียญไต้หวันต่อปี ปีที่แล้ว(2023)เป็นครั้งแรกที่รัฐบาลกลางเห็นด้วยและมีการจัดสรรงบประมาณ จำนวนครัวเรือนที่ได้รับการอนุมัติเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 60000ครัวเรือนในปี2019 ปัจจุบันมีจำนวนถึง 277000ครัวเรือน ในจำนวนนั้นมีครัวเรือนที่ด้อยโอกาสประมาณ40% คนหนุ่มสาวที่เพิ่งก้าวสู่สังคมและครอบครัวที่สมรสแล้วประมาณ30% ได้ให้เงินสนับสนุนค่าเช่าบ้านแก่ประชาชนช่วยลดภาระการครองชีพอย่างมีประสิทธิภาพ

ปีนี้เงินอุดหนุนค่าเช่าบ้านมี 5 นโยบายใหม่  ประกอบด้วย:

1.มาถึงดำเนินการได้ทันที

2.ครัวเรือนเดิมขยายเงินอุดหนุนต่อเนื่องโดยตรง โดยไม่ต้องยื่นคำร้องขอดำเนินการใหม่

3.ครัวเรือนใหม่ที่ทำสัญญาเช่าไม่ต้องแนบหมายเลขบัตรประจำตัวของเจ้าของบ้านเช่า

4.ผ่อนปรนขอบเขตการใช้อาคารที่อยู่อาศัย เปรียบเทียบภาษีที่อยู่อาศัยและข้อมูลที่ดินเข้าด้วยกัน ผู้ที่ไม่มีข้อมูลสามารถจัดการด้วยวิธีการยืนยันข้อมูลให้ถูกต้อง

5.ขยายกลุ่มเช่าบ้านที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปสามารถใช้ได้

ช่วยบรรเทาความกดดันให้กับกลุ่มเงินกู้ที่มีรายได้กลางต่ำ

ขณะนี้“กฎหมายว่าด้วยการเสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจและสังคมหลังการเกิดโรคระบาดและเพื่อทุกคนได้แบ่งปันผลสำเร็จทางเศรษฐกิจ”อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติ เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของประชาชนอย่างรวดเร็วขณะเดียวกันกระทรวงมหาดไทยได้วางแผนร่างกฎหมายมาตราที่3 วรรคที่ 2 ว่าด้วย“การลดภาระความเป็นอยู่และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น”เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดโรคและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ทำให้เพิ่มแรงกดดันต่อการกู้เงินซื้อบ้าน

นโยบายนี้ไม่เหมาะกับคนที่ซื้อบ้านในราคาสูง

กระทรวงมหาดไทยชี้แจงเพิ่มเติม จุดสำคัญของนโยบายนี้เพื่อลดภาระให้ผู้ทำสินเชื่อที่มีรายได้กลางต่ำ ไม่ใช่สนับสนุนให้ผู้ที่ต้องการจะซื้อบ้านใหม่ในอนาคต ไม่เหมาะกับผู้ที่ซื้อบ้านในวงเงินสูง ซึ่งจะไม่ให้เงินอุดหนุนแก่เจ้าของบ้านเช่าที่ให้เช่าบ้าน!ดังนั้น เนื้อหาที่วางแผนจะมุ่งสำหรับแต่ละครัวเรือนที่สามารถใช้เงินที่ได้น้อยกว่า 1.2 ล้านเหรียญไต้หวัน มีบ้านเพียงหลังเดียวและใช้เป็นที่อยู่อาศัยของตนเอง วงเงินสินเชื่อเดิมที่กรุงไทเปอนุมัติสำหรับที่อยู่อาศัยอยู่ที่วงเงิน 8.5ล้านเหรียญไต้หวัน ราคารวมอยู่ที่วงเงิน 12 ล้านเหรียญไต้หวัน สำหรับเมืองอื่นวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติอยู่ที่ 7 ล้านเหรียญไต้หวัน ราคารวมอยู่ที่วงเงิน 10 ล้านเหรียญไต้หวัน วงเงินสนับสนุนกำหนดที่ 30000 เหรียญไต้หวัน หลังร่างกฎหมายผ่านคาดว่าจะมีครัวเรือนที่ทำสินเชื่อทั่วประเทศจำนวน550000 ครัวเรือนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ จำนวนนั้นในกรุงไทเปมีประมาณ40000ครัวเรือน เมืองอื่นที่ไม่ใช่กรุงไทเปมีประมาณ510000 ครัวเรือน เงินอุดหนุนที่กำหนด30000เหรียญไต้หวันโดยอิงจากยอดเฉลี่ยเงินกู้ทั่วประเทศที่จำนวน4.95 ล้านเหรียญไต้หวัน ในปี 2022 อัตราดอกเบี้ยสะสมที่ธนาคารกลางคำนวณได้0.625%

ประชาชนที่มีคุณสมบัติสอดคล้องต่อไปนี้ ให้ขอยื่นเรื่องแผนสนับสนุนสินเชื่อที่อยู่อาศัยได้:

1.มีสินเชื่อบ้านที่ใช้อยู่อาศัยเองเพียงวงเงินเดียว

2.ภายใต้ชื่อมีเพียงบ้านที่อยู่อาศัยเดียวเท่านั้น

3.ปี 2022รายได้รวมของครัวเรือนไม่เกิน1.2ล้านเหรียญไต้หวัน

4.จำนวนวงเงินสินเชื่อที่กรุงไทเปอนุมัติเดิมสำหรับที่อยู่อาศัย 8.5ล้านเหรียญไต้หวัน(ราคาที่อยู่อาศัยรวมประมาณ12 ล้านเหรียญไต้หวัน) พื้นที่เมืองอื่นวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติเดิมสำหรับที่อยู่อาศัย 7 ล้านเหรียญไต้หวัน(ราคาที่อยู่อาศัยรวมประมาณ10 ล้านเหรียญไต้หวัน)

ผลักดันให้เพิ่มเคหะชุมชนแห่งชาติอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงมหาดไทยแถลงว่า ในปลายปี2020รัฐบาลกลางได้สร้างที่อยู่อาศัยจำนวน 4,435ครัวเรือน ภายใน 3 ปีจำนวนการก่อสร้างเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ปีที่แล้ว(2022)การก่อสร้างที่สะสมจำนวน30491ครัวเรือนและกระจายไปทั่วไต้หวันกว่า 20 เมือง(รวมเผิ่งหู) สำเร็จตามเป้าหมาย“เคหะชุมชนรอบเกาะ”ในปีนี้หมาจู่และจินเหมินจะเริ่มดำเนินการเช่นกัน ทำให้บรรลุผลในการมีเคหะชุมชนทั่วประเทศ 22 เมือง คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 20000ครัวเรือน

กระทรวงมหาดไทยแถลงเพิ่มเติม สิ้นสุด ณ เดือนมกราคม ปี2023 เคหะชุมชนที่สร้างโดยตรงทั่วประเทศจะมีมากกว่า 71000 แห่ง ในอนาคตจะทำการเวนคืนบ้านที่ดินที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่อง บูรณาการใช้ประโยชน์ในที่ดินของหน่วยงานราชการและกระทรวงอื่นๆ เพื่อจัดหาที่ดินเคหะชุมชน ประมาณการในปลายปี2024จำนวนเคหะชุมชนที่สร้างโดยรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นจะมียอดสะสมตามเป้าหมาย 123000ครัวเรือน ในอนาคตจะมีการหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลยุทธ์การดำเนินการและทิศทางของการเคหะชุมชน ผลักดันความต้องการของปริมาณเคหะชุมชนในประเทศต่อไป

นอกจากนี้ตัวแทนการจัดการเคหะชุมชนเริ่มดำเนินการวางแผนตั้งแต่ปลายปี2017สะสมไปถึงปลายปี2023จำนวนที่จับคู่เกินกว่า58000ครัวเรือน ปัจจุบันต่อไตรมาสสามารถเพิ่มครัวเรือนได้7000ครัวเรือน อนาคตจะขยายวงกว้างดำเนินการตัวแทนจัดการเคหะชุมชน4.0 และปริมาณการจับคู่ ทุก

ไตรมาสจะตั้งเป้าเพิ่มขึ้นอีก10000ครัวเรือน

ท้ายสุดกระทรวงมหาดไทยเน้นย้ำว่า นโยบายนี้เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้กลางต่ำที่มีผลกระทบจากโรคระบาด เกี่ยวกับการที่“ทุกคนมีบ้านเท่าเทียมกัน”ให้ได้นั้น ในอนาคตกระทรวงมหาดไทยจะเน้นไปที่ความต้องการและปัญหา นำเสนอมาตรการต่างๆที่สำคัญและเป็นระเบียบขั้นตอนเพื่อวางแผนเป็นนโยบายระย


top