• 地點:Taiwan
• 發布日期: 2021/05/20
• 單位:行政院消費者保護會
• 更新日期:2021/05/20
• 點閱次數:223

จากสถิติของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสภาบริหาร( Consumer Protection Committee,Executive Yuan)(ต่อไปเรียกสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคสภาบริหาร) ในปีที่ผ่านมา(2020) มีกรณีการร้องเรียนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเจ้าใหญ่ 6 รายเป็นจำนวน 4,243 เรื่อง เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า(2019) 1,321 เรื่อง เพิ่มขึ้น 45.2 % ซึ่งทางสำนักงานได้มีการเชิญแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆเข้าประชุมร่วมกัน เรียกร้องให้ลดจำนวนกรณีข้อพิพาท พร้อมทั้งติดตามสภาพการปรับปรุงอย่างเป็นระยะ

สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคสภาบริหารระบุว่า เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาด ประชาชนซื้อสินค้าของผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเป็นจำนวนมาก กระตุ้นให้เกิดกรณีข้อพิพาทจากการบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ลำดับจำนวนเรื่องการถูกร้องเรียนมีดังนี้：

1. บริษัท SHOPEE TAIWAN SINGAPORE PRIVATE LIMITED TAIWAN BRANCH(ต่อไปเรียก shopee) จำนวน 2,029 เรื่อง (จากประวัติการจัดทำสถิติในปีที่ผ่านๆมา เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายแรกที่มีจำนวนทะลุ 2,000 เรื่อง ) เพิ่มขึ้น 802 เรื่องจากปี 2019(อัตราเพิ่มขึ้น 65% )

2. บริษัท Fubon Multimedia Technology Co., Ltd.(ต่อไปเรียก Fubon momo) จำนวน 1,049 เรื่อง เพิ่มขึ้น 424 เรื่องจากปี 2019 (อัตราเพิ่มขึ้น 67.8% ) 

3. บริษัท PChome Online Inc.  จำนวน 372 เรื่อง

4. บริษัท PChome eBay Co., Ltd. จำนวน 351 เรื่อง ลดลง 19 เรื่องเมื่อเทียบกับปี 2019 (เป็นผู้ประกอบการเจ้าเดียวที่มีจำนวนลดลง) 

5. บริษัท YAHOO! TAIWAN HOLDINGS LIMITED, TAIWAN BRANCH (H.K.) จำนวน 278 เรื่อง

6.บริษัท Eastern Home Shopping & Leisure Co., Ltd. จำนวน 164 เรื่อง

นอกจากนี้ตามสถิติของสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคสภาบริหาร จากเรื่องการร้องเรียนข้างต้นแบ่งเป็นประเภทและหมวดหมู่สินค้า 3 ลำดับแรกได้แก่：

1.ประเภทข้อพิพาท 3 ลำดับแรก

(1)สินค้าชำรุดบกพร่อง(ราว 1,035 เรื่อง)

(2)ข้อพิพาทในการส่งสินค้า(ราว 505 เรื่อง) โดยหลักเกี่ยวกับจำนวน สี รูปลักษณ์ของสินค้าเป็นต้นในเรื่องของความผิดพลาดและส่งสินค้าล่าช้า

(3)ไม่ปฏิบัติตามกติกาเวลา7วันในการคืนสินค้าหรือยกเลิกสัญญา(ราว 246 เรื่อง)

2.หมวดหมู่สินค้า 3 ลำดับแรก

(1) เครื่องแต่งกาย เครื่องหนังและรองเท้า(ราว 606 เรื่อง)

(2) เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านและอุปกรณ์เสริม(ราว 530 เรื่อง)

(3) เครื่องสื่อสารและอุปกรณ์เสริม(ราว 467 เรื่อง)

จากที่กล่าวข้างต้น ปี 2020 ผู้ประกอบการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซถูกร้องเรียนเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก แม้ว่าสถานการณ์โรคระบาดจะเป็นสาเหตุหนึ่ง แต่การจัดการและคุณภาพการบริการของผู้ประกอบการยังคงมีช่องว่างในการปรับปรุงให้ดีขึ้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นในการประชุมช่วงก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคสภาบริหารได้มีมติกล่าวโดยย่อดังนี้：

1.ขอให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเรียกร้องให้ผู้ขายต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดของกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคมาตรา 18 ทำการแจ้งข้อมูลการสื่อสารที่สามารถติดต่อได้เช่นชื่อร้านค้า เบอร์โทรศัพท์เป็นต้นให้กับผู้บริโภค พร้อมทั้งขอให้กระทรวงเศรษฐการแนะแนวผู้ประกอบการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในการเรียกร้องผู้ขายให้มีความถูกต้องเหมาะสมตามกฎหมาย

2.ขอให้กระทรวงเศรษฐการทำการแนะแนวผู้ประกอบการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจัดทำระบบการควบคุมที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถลดข้อขัดแย้งการบริโภคได้อย่างมีประสิทธิผล  พร้อมทั้งกลั่นกรองการมีสินค้าหรือบริการกระทำผิดกฎหมายหรือทำลายระเบียบสังคมและศีลธรรมอันดีงามปรากฎบนแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะ shopee และ Fubon momo ที่มีจำนวนเรื่องการร้องเรียนเพิ่มขึ้นรวดเร็วเกินไป จึงได้เรียกร้องเป็นพิเศษต่อผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย ให้เสนอวิธีการแก้ไขอย่างได้ผล ต่อประเด็นประเภทข้อพิพาทที่ตนถูกร้องเรียนมากที่สุด และรายงานสภาพการณ์แก้ไขปรับปรุงของตนในการประชุมครั้งต่อไป

3. ขอให้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆรับผิดชอบต่อการควบคุมผู้ขายให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคเป็นต้น เพื่อลดความขัดแย้งในการบริโภคที่เกิดขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคสภาบริหารขอเตือนผู้บริโภค เมื่อซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ควรระวัง :

1.ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของผู้ขายและแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ พร้อมทั้งใช้ระบบการชำระเงินผ่านบุคคลที่สามหรือมี “ระบบเก็บรักษาค่าสินค้า”ที่ผู้ประกอบการแพลตฟอร์มเสนอบริการ หากโชคร้ายเกิดปัญหาข้อพิพาท จะมีระบบที่ค่อนข้างเหมาะสมในการจัดการ

2.นอกจากมีการกำหนด “ข้อยกเว้นที่สมเหตุผล”ตามระบุในกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคแล้ว ผู้ซื้อสามารถแจ้งต่อผู้ประกอบการธุรกิจ(รวมถึงผู้ขายส่วนบุคคลที่มีพฤติกรรมการจำหน่ายซ้ำแล้วซ้ำอีก) ทำการยกเลิกสัญญาอย่างไม่มีเงื่อนไข และไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ภายใน 7 วันหลังได้รับสินค้าหรือได้รับบริการ