กด Enter เพื่อไปที่ส่วนเนื้อหาหลัก
:::

กองทุนพัฒนาผู้ย้ายถิ่นฐานใหม่

การใช้ยาอย่างปลอดภัย
:::

เอนเทอโรไวรัสได้เข้าสู่ฤดูกาลแพร่ระบาดในไต้หวัน ขอย้ำเตือนผู้ปกครองและสถานศึกษาและรับเลี้ยงเด็กให้ใส่ใจกับสุขอนามัยและสุขภาพของเด็กและนักเรียน

ตั้งค่าตัวอักษร:
  • สถานที่:臺灣
  • วันที่เผยแพร่:
  • วันที่อัพเดท:2023/05/09
  • จำนวนครั้งที่กดเข้าชม:64

กรมควบคุมโรคชี้แจงว่า การแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัสในไต้หวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเอนเทอโรไวรัสแพร่ระบาดได้ง่าย ปฏิสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างเด็กและนักเรียนทำให้เอนเทอโรไวรัสแพร่ระบาดในโรงเรียนได้ง่าย จึงขอย้ำเตือนผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่ในสถานศึกษาและรับเลี้ยงเด็กห้ามละเลย และควรปรับปรุงการถ่ายเทของอากาศ ความสะอาดเรียบร้อยและการฆ่าเชื้อสำหรับสภาพแวดล้อมในบ้านอาศัย ห้องเรียนและอุปกรณ์เครื่องเล่น และสอนทัศนคติเรื่องสุขอนามัยที่ดีให้แก่เด็กเล็ก การเข้าออกในสถานที่ที่มีคนเยอะ เช่น สถาบันรับสอนเด็ก สถาบันรับเลี้ยงเด็ก สวนสนุกเด็กในร่ม ก่อนกลับบ้านหรือรับประทานอาหารจะต้องล้างมือด้วย5 ขั้นตอน "เปียก ถู ล้าง รอง เช็ด" อย่างถูกต้อง และในเวลาป่วยให้พักผ่อนที่บ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของไวรัสภายในสถานศึกษาและชุมชน

กรมควบคุมโรคระบุว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาได้พบผู้ป่วยเอนเทอโรไวรัสสายพันธุ์ 71 ที่มีอาการไม่รุนแรงจำนวน 2 ราย ล้วนเป็นเด็กเล็กอายุ 1 ขวบจากทางภาคเหนือ โดยเริ่มมีอาการช่วงต้นเดือนเมษายน หลังจากได้รับการรักษาแล้วมีอาการดีขึ้น ในปีนี้ (2023) มีผู้ป่วยเอนเทอโรไวรัสสายพันธุ์ 71 ที่มีอาการไม่รุนแรงสะสมรวม 7 ราย ผู้ป่วยติดเชื้อเอนเทอโรไวรัสและมีอาการรุนแรงสะสมรวม 2 ราย โดยเป็นการติดเชื้อเอนเทอโรไวรัสสายพันธุ์ D68 และค็อกซากี A6

จากข้อมูลเฝ้าติดตามของกรมควบคุมโรคเปิดเผยให้เห็นว่า วันที่ 16 เมษายน ถึงวันที่ 22 เมษายน 2023 มีผู้ป่วยเอนเทอโรไวรัสที่เข้ารักษาฉุกเฉินจำนวน 7,851 ราย เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา (5,470 ราย) เพิ่มขึ้น 43.5% และสูงกว่าช่วงเดียวกันใน 6 ปีที่ผ่านมา โดยมีความเสี่ยงในการแพร่ระบาดมากขึ้น ควรเพิ่มความตระหนักและใส่ใจกับอาการเริ่มต้นก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรงของเอนเทอโรไวรัสตามมา จากการเฝ้าติดตามของห้องปฏิบัติการ เห็นได้ชัดว่า การแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัสในชุมชนเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะตรวจพบไวรัสสายพันธุ์ค็อกซากี A เป็นหลัก และเอนเทอโรไวรัสสายพันธุ์ 71 และสายพันธุ์ D68 ยังคงมีการแพร่ระบาดในชุมชนอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้กรมควบคุมโรคชี้แจงว่า ความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัสมีเพิ่มขึ้น สถานศึกษาและสถานรับเลี้ยงเด็กควรเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัส ตาม "คู่มือป้องกันและรักษาเอนเทอโรไรวัสสำหรับเจ้าหน้าที่สถานศึกษาและสถานรับเลี้ยงเด็ก" พยายามตรวจสอบด้วยตนเองและปฏิบัติตามมาตรการป้องกันต่าง ๆ พร้อมเน้นย้ำประชาชนผู้ที่มีเด็กทารกในบ้าน เจ้าหน้าที่ในสถานศึกษาและสถานรับเลี้ยงเด็ก รวมทั้งผู้ประกอบการสถานที่สาธารณะที่มีเด็กเข้าออกเป็นประจำ ให้ปฏิบัติตนตามสุขนิสัยส่วนตัวที่ดีและขยันล้างมืออย่างถูกต้อง รักษาการถ่ายเทอากาศของสภาพแวดล้อมให้ดีอยู่เสมอและทำความสะอาดฆ่าเชื้อเป็นประจำ จึงจะสามารถลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเอนเทอโรไวรัส ทั้งนี้เพื่อดูแลสุขภาพของเด็กทารก

กรมควบคุมโรคขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อเอนเทอโรไวรัสขั้นรุนแรง หากมีอาการเริ่มต้นก่อนที่จะเกิดอาการรุนแรง เช่น ง่วงซึม ไม่มีสติ ไม่มีเรี่ยวแรง มือเท้าอ่อนแรงหรือชา กล้ามเนื้อกระตุก (ตกใจโดยไม่มีสาเหตุหรือกล้ามเนื้อเกร็งอย่างกะทันหัน) อาเจียนต่อเนื่องและหายใจถี่หรือหัวใจเต้นเร็วขึ้น โปรดส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลทันที โดยสามารถสอบถามข้อมูลที่เกี่ยวข้องได้ที่เว็บไซต์ของกรมควบคุมโรคหรือสายด่วนโทรฟรี 1922 (หรือ 0800-001922)


สูงสุด