按 Enter 到主內容區
:::

回培力新住民資訊網首頁

ข่าวสารใหม่ล่าสุด
:::

เพื่อรองรับสถานการณ์การติดเชื้อภายในประเทศที่รุนแรงขึ้นต่อเนื่อง นับตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 28 พ.ค. ศูนย์บัญชาการควบคุมโรคฯ ยกระดับมาตรการป้องกันโรคเป็นระดับ 3 ทั่วประเทศ ทุกพื้นที่เสริมความเข้มงวดพร้อมกัน เพิ่มการควบคุมป้องกันโรค ปกป้องเขตพื้นที่ของชุมชน

  • 回上一頁
  • 友善列印
字型大小:
  • 地點:Taiwan
  • 發布日期:
  • 單位:衛生福利部疾病管制署
  • 更新日期:2021/05/20
  • 點閱次數:252

วันนี้(19พ.ค.)ศูนย์บัญชาการป้องกันโรคระบาด(Central Epidemic Command Center,CECC)ระบุว่า เพื่อรองรับสถานการณ์การติดโรค COVID-19 ภายในประเทศในขณะนี้ที่มีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ที่อยู่นอกเหนือจากเขตพื้นที่ไทเป(กรุงไทเป นครนิวไทเป) พบผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศปรากฏอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมมาตรการในการป้องกันโรค นับตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม ยกระดับมาตรการเตือนภัยป้องกันโรคเป็นระดับ 3 ขอให้ประชาชนทั่วประเทศ ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการเตือนภัยป้องกันโรคระดับ 3 ในขณะนี้อย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม พยายามร่วมกันกับรัฐบาล ทำการปกป้องเขตพื้นที่ของชุมชน 


ศูนย์บัญชาการฯย้ำว่า  ขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นที่ต้องยกระดับขึ้นเป็นระดับที่ 4 พร้อมทั้งจะมีปรับเปลี่ยนการดำเนินมาตรการรองรับ เสริมกำลังในการป้องกันโรค:


1.ทั่วประเทศใช้มาตรฐานเดียว ทุกเขตท้องที่ดำเนินการรูปแบบเดียวกันหมด โดยปฏิบัติการอย่างเต็มที่ตามมาตรฐานแนวทางที่ศูนย์บัญชาการฯประกาศ หากเมืองในท้องถิ่นมีปัญหาทรัพยากรและกำลังคนไม่พอ ศูนย์บัญชาการฯ จะทำการช่วยเหลือจัดสรรอย่างเต็มที่


2.ศูนย์บัญชาการฯจะจัดให้มีการประชุมการป้องกันโรคทั่วประเทศร่วมกับรัฐบาลท้องถิ่นทุกวัน โดยมีเฉินจงเยี่ยน(陳宗彥)รองผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการฯ และสือโฉงเหลียง(石崇良)รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขร่วมกันเป็นประธานในการประชุม เพื่อบูรณาการทรัพยากรในการป้องกันโรค ตรวจสอบความคืบหน้าของการปฏิบัติงาน  และต่อต้านขจัดข้อมูลข่าวที่เป็นเท็จ หลังการประชุมจะจัดแถลงข่าว 1 รอบ โดยมีรองผู้อำนวยการศูนย์บัญชาการฯเป็นผู้อธิบายข่าวเท็จเสริมการให้ข้อมูลที่เป็นจริง


3.กำลังของการรักษาพยาบาลมีอยู่อย่างพอเพียง ประชาชนไม่จำเป็นต้องวิตกกังวล โดยได้มีการยกระดับเสริมกำลังการรักษาพยาบาล 4 ด้านใหญ่ ส่วนกลางจะให้การสนับสนุนส่วนท้องถิ่นอย่างเต็มที่


1.จุดตรวจคัดกรองโรค :เพิ่มจุดตรวจคัดกรองโรคในเขตพื้นที่ที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นจัดทำ “ช่องทางด่วนพิเศษ” สำหรับผู้ที่มีอาการของโรค และได้ย้ำเรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นต้องทำการแบ่งระดับผู้ป่วยยืนยันติดโรค และส่งตัวไปยังศูนย์กักตัวตรวจสอบโรคหรือสถานพยาบาล ในเวลาแรกที่มีการพบผู้ป่วย(หลังยืนยันติดโรคภายใน 6 ชั่วโมง ยกเว้นในเวลาช่วงดึก)


2.โรงแรมกักตัว :จนถึงวันที่ 18 พฤษภาคม มีห้องพักของโรงแรมกักตัวทั่วประเทศจำนวน 17,789 ห้อง มีการเข้าพักแล้วจำนวน 10,501 ห้อง คิดเป็นอัตราการใช้ถึง 59.03% ได้เรียกร้องให้รัฐบาลท้องถิ่นทำการขยายเพิ่มจำนวนห้องพักโรงแรมกักตัวอย่างต่อเนื่อง


3.ศูนย์กักตัวตรวจสอบโรค:ขณะนี้มีอยู่ 39 แห่ง จำนวนทั้งหมด 4,500 ห้อง มีการใช้แล้ว 2,500 ห้อง ยังคงมีห้องว่าง 2,000ห้อง  จะทำการประเมินเตรียมเพิ่มอีกราว 2,000 ห้อง เพื่อเป็นหลักประกันยามฉุกเฉินต้องมีห้องเพียงพอใช้ทุกเวลา


4.โรงพยาบาลรับผิดชอบเฉพาะและรองรับสถานการณ์:ได้เริ่มใช้โรงพยาบาลเพื่อการรับผิดชอบเฉพาะทั่วประเทศ และพื้นที่เครือข่ายการรักษาพยาบาลเพื่อการป้องกันโรคระบาด / โรงพยาบาลรองรับสถานการณ์ทุกเขตเมือง สามารถใช้ห้องพักผู้ป่วยเฉพาะได้จำนวน 2,412 ห้อง และห้องพักผู้ป่วยแยกตัวความดันลบจำนวน 1,068 ห้อง พร้อมทั้งเรียกร้องให้โรงพยาบาลที่รับตัวผู้ป่วยเพื่อการรักษาทั้งหมด ต้องปฏิบัติตามระบบรองรับตามสถานการณ์ของศูนย์บัญชาการควบคุมโรคระบาด ขยายเพิ่มจำนวนห้องพักผู้ป่วยเฉพาะโดยรวมทั้งระบบ

top